คำเตือน: การยกเลิกโทษของการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

22.10.2025 | www.kla.tv/39194

20 ปีที่แล้ว อีโว ซาเซ็ก ผู้ก่อตั้ง Kla.TV ได้กล่าวเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับสภาพอันป่าเถื่อนในสังคมที่จะเกิดขึ้นหากไม่ละเมิดข้อห้าม ในการบรรยายเรื่อง "อำลาหน่วยสืบราชการลับ" เมื่อปี 2007 เขาเตือนเป็นพิเศษเกี่ยวกับพัฒนาการที่ไม่อาจหยุดยั้งการละเมิดสิทธิเด็กได้: "ผมแค่อยากแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่คุณเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยเมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนที่เราทำนายเรื่องนี้ไว้ กำลังเกิดขึ้น [...] หากไม่หยุดยั้ง หากไม่แก้ไข หากเราไม่สามารถควบคุมพัฒนาการนี้ [...] สักวันหนึ่งลูกหลานของเราจะไม่ได้รับการปกป้องอีกต่อไป... และจะมาถึงจุดที่ [...] ที่เด็กๆ จะกลายเป็นเหยื่อที่ยุติธรรมและเป็นอิสระ [...]" อีโว ซาเซ็กกัดฟันสู้เกินกว่าที่เขาจะรับไหวในตอนนั้นหรือไม่? ปัจจุบันเราอยู่จุดไหน? จำนวนรายงานกรณีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างมาก [สำนักงานตำรวจอาชญากรรมกลางแห่งเยอรมนี (BKA) รายงาน: ปี 2566: 16,375 คดี เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 คดีจากปี 2560] ระหว่างปี 2559 ถึง 2566 จำนวนคดีครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กในเยอรมนีเพิ่มขึ้นเกือบแปดเท่า [จาก 5,687 เป็น 45,191 คดี] ทุกครึ่งชั่วโมง เด็กในเยอรมนีตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศ เฉลี่ยวันละ 54 คน กลุ่มคนรักเด็กเรียกร้องต่อสาธารณะให้ยอมรับความดึงดูดใจต่อผู้เยาว์ว่าเป็นอัตลักษณ์ทางเพศ: บนเว็บไซต์ www.wir-sind-auch-menschen.de กลุ่มคนรักเด็กได้ส่งเสริมสื่อลามกอนาจารเด็กโดยใช้เทคโนโลยี AI ตุ๊กตายางเด็ก และวิธีที่คนรักเด็กปฏิบัติต่อเด็กอย่างโจ่งแจ้ง ในเดือนมีนาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีประกาศว่าการห้ามการแต่งงานของเด็กเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญของประเทศ ในสหราชอาณาจักร เครือข่ายชายมุสลิมปากีสถานจำนวนมากได้วางยา ข่มขืน แสวงหาประโยชน์ทางเพศ หรือขายเด็กหญิงอายุต่ำกว่าเกณฑ์หลายร้อยถึงหลายพันคนในชุมชนชาวอังกฤษอย่างน้อย 50 แห่งตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน การค้ามนุษย์เด็กเพิ่มขึ้นสามเท่าภายใต้หน้ากากของ "นโยบายเปิดพรมแดน" เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย "อิทธิพลของพวกชอบเด็กแทรกซึมอยู่ในสถาบันต่างๆ นโยบายการศึกษา แม้แต่กฎหมาย [...] พวกเขาต้องการโน้มน้าวเรา [...] ว่าผู้วิพากษ์วิจารณ์พวกชอบเด็กเป็นพวกเกลียดชังมนุษยชาติ และดังนั้นจึงเป็นอาชญากรตัวจริง" ข้อความข้างต้นเป็นเพียงการรวบรวมข้อเท็จจริงเล็กๆ น้อยๆ ที่ Kla.TV ได้รับแทบทุกวัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเด็กๆ ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปในทุกประเทศทั่วโลก เห็นได้ชัดว่า อีโว ซาเซก ไม่ได้มั่นใจเกินไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ตรงกันข้าม เขากลับเตือนถึงสถานการณ์นี้โดยเฉพาะ นั่นคือ เด็กและผู้ปกครองแทบไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเลย และถูกกฎหมายตามล่าอย่างแท้จริง และดังที่เขากล่าวไว้ว่า พวกเขาประกาศว่า "เป็นเป้าหมายที่ยุติธรรม" ทารา โรดาส ผู้แจ้งเบาะแส เป็นพนักงานรัฐบาลกลางของสำนักงานบริการสุขภาพและมนุษย์ของรัฐบาลสหรัฐฯ [สำนักงานบริการสุขภาพและมนุษย์] มานาน และได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า "และนี่คือสิ่งที่ผู้ชมทั่วไปและคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ นั่นคือ มีคนไม่ดีในโลกที่มองเด็กเป็นสินค้า และพวกเขาใช้เด็กเพื่อการค้าแรงงาน การค้าประเวณี และที่แย่กว่านั้น [...] เมื่อคุณมีลูก คุณสามารถใช้พวกเขาได้ทุกวัน หลายครั้งต่อวัน และพวกเขาก็เป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง นั่นคือสิ่งที่ผู้คนจำเป็นต้องเข้าใจว่ามีคนที่คิดแบบนี้ [...] ขณะนี้กำลังมีสงครามกับเด็ก และผู้คนจำเป็นต้องตื่นตัวและตระหนักว่าเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้" [อดีตพนักงาน HHS มากว่า 20 ปี] เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? คำตอบแบบครอบคลุมสำหรับคำถามนี้: ผ่านกลยุทธ์แบบซาลามิ ด้วยกลยุทธ์ระยะยาวที่ซับซ้อนนี้ ค่านิยม บรรทัดฐาน แนวทางปฏิบัติ และกฎหมายใหม่ๆ ได้ถูกนำเสนอต่อประชาชนทีละส่วน เป็นเวลาหลายทศวรรษ หรืออาจจะหลายศตวรรษ นวัตกรรม กฎระเบียบ และการละเมิดข้อห้ามของลัทธินิฮิลิสม์ (การจงใจทำลายศีลธรรมและค่านิยม) จำเป็นต้องถูกกลืนกินในนามของสิทธิมนุษยชน ใครก็ตามที่เตือนถึงความเกินเลยที่มากเกินไปก็ถูกประณามและถูกประกาศว่าเป็นคนเกลียดชังมนุษยชาติ และยังคงถูกกล่าวโทษต่อไป โดยปราศจากการตัดสินใดๆ การทำให้การแต่งงานถูกกฎหมายสำหรับทุกคน [เนเธอร์แลนด์ 2001; อังกฤษและเวลส์ 2013; สหรัฐอเมริกา 2015; เยอรมนี 2017] ถือเป็นก้าวแรกทางกฎหมายที่เริ่มต้นขึ้น แม้แต่ในตอนนั้น ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่าการทำให้การแต่งงานถูกกฎหมายนี้จะบ่อนทำลายนิยามดั้งเดิมของ "การแต่งงาน" และ "ครอบครัว" แม้กระทั่งการดำรงอยู่ของสิ่งเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม การทำให้การแต่งงานถูกกฎหมายได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสามารถเรียกร้องเพิ่มเติมในนามของสิทธิมนุษยชนได้ ตามมาด้วยการทำให้สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมถูกกฎหมายสำหรับทุกคน ตอนนี้ไม่เพียงแต่ลูกเลี้ยงของคู่รักเพศเดียวกันเท่านั้นที่สามารถรับเลี้ยงได้ในเยอรมนี แต่ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นไป ก็ยังมีเด็กต่างชาติ ในสหรัฐอเมริกา เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ปี 2015 การทำให้ถูกกฎหมายนี้มีความเสี่ยงอยู่บ้าง มีรายงานข่าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นตัวอย่างต่อไปนี้ ซึ่งปรากฏในสื่อในปี 2023: "คู่รัก LGBTQ นางแบบสายรุ้ง W. & Z. Zulock (แอตแลนตา สหรัฐอเมริกา) โพสท่าถ่ายรูปอย่างมีความสุขกับลูกชายบุญธรรมสองคน อย่างไรก็ตาม ต่อมามีการเปิดเผยว่าลูกๆ ทั้งสองถูกข่มขืนโดย "พ่อที่เป็นเกย์" ฉากการล่วงละเมิดถูกถ่ายทำและเผยแพร่ทางออนไลน์ เพื่อให้เด็กชายทั้งสองสามารถถูกให้เช่าแก่ "เกย์ผู้ล่วงละเมิดเด็ก" คนอื่นๆ ได้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 พระราชบัญญัติการกำหนดชะตากรรมตนเอง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทุกคนสามารถกำหนดชะตากรรมตนเองได้ จะมีผลบังคับใช้ในเยอรมนี ผ่านแคมเปญโฆษณาในสื่อหรือเป็นส่วนหนึ่งของชั้นเรียนการศึกษาเพศแบบสหวิทยาการ ทำให้เด็กๆ ได้รับรู้ถึงทางเลือกทางเพศมากขึ้นเรื่อยๆ Aglaja Stirn ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ทางเพศ พูดถึงกระแสความนิยมของคนข้ามเพศที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยการแพทย์ ผลที่ตามมาคือ ผู้เชี่ยวชาญ เช่น Alexander Korte จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กำลังสังเกตเห็นว่าเด็กนักเรียนที่ เชื่อว่าพวกเขาเกิดมาในร่างกายที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กำลังเผชิญกับพัฒนาการทางเพศแบบข้ามเพศก็ตาม ด้วยเหตุนี้ แพทย์จำนวนมากจึงวิพากษ์วิจารณ์ พวกเขาเตือนว่าในอนาคต วัยรุ่นหลายพันคนที่ไม่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่มั่นคง แต่กลับได้รับกำลังใจจากบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ในกระเป๋า จะเรียกร้องและดำเนินการแปลงเพศทางการแพทย์ โดยไม่เข้าใจแม้แต่น้อยถึงผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น [WPATH - www.kla.tv/31744] อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่อายุ 14 ปีขึ้นไปสามารถเปลี่ยนทะเบียนเพศและชื่อได้โดยไม่ต้องมีรายงานทางจิตวิทยาหรือทางการแพทย์ เป็นเรื่องต้องห้ามที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะคิดไม่ถึง! ลูกๆ ของเราตกอยู่ในอันตรายหรือไม่? "ว่าแต่ ในสวิตเซอร์แลนด์ก็มีการแต่งงานในวัยเด็กด้วย การแต่งงานในวัยเด็กที่ถูกกฎหมาย (ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย) ก็เช่นกัน คุณคงไม่เชื่อหรอก แต่มันเป็นเรื่องจริง" แฮร์มันน์ ไล ทนายความชาวสวิส อธิบายในการให้สัมภาษณ์กับ Kla.TV [ในรายการ "Banana Republic Switzerland: Justice on the Wrong Path!" www.kla.tv/11021] ในเดือนมีนาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีประกาศว่าการห้ามการแต่งงานของเด็กเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญของประเทศ สมาชิกรัฐสภาเยอรมันท่านหนึ่งได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแผนการของรัฐบาลผสมที่จะทำให้การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กถูกกฎหมาย เขาโต้แย้งว่ามาตรการนี้ควรนำเสนอต่อพลเมืองเยอรมันในฐานะ "ขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อคำนึงถึงประเพณีทางวัฒนธรรมของผู้อพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อพยพจากประเทศอาหรับ" ส.ส. ย้ำว่านี่ไม่ใช่การตัดสินใจอย่างฉับพลัน แต่เป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไปและค่อยๆ พัฒนามาเป็นเวลาหลายปี เว็บไซต์ "wir-sind-auch-menschen.de" สนับสนุนการปฏิบัติต่อผู้มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กอย่างเท่าเทียมกันกับคนรักร่วมเพศหรือคนข้ามเพศอย่างเปิดเผย ความหมายคือ การมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กไม่ใช่โรค แต่เป็นเพียงอาการทางเพศ แนวโน้มทางเพศและท้ายที่สุดแล้วคือสิ่งที่ปกติที่สุดในโลก ผู้ประกอบการตำหนิสังคมโดยตรงหากผู้ล่วงละเมิดทางเพศไม่สามารถควบคุมแนวโน้มทางเพศของตนได้อีกต่อไป และกลายเป็นผู้กระทำความผิด พวกเขายังสนับสนุนให้มีการติดต่อกับเด็กอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัดเชิงป้องกันที่สามารถ "ส่งผลดีต่อทั้งผู้ล่วงละเมิดทางเพศและเด็ก" ในประเทศเนเธอร์แลนด์ พรรค "พรรคเพื่อการกุศล เสรีภาพ และความหลากหลาย" (PNVD) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2549 ได้พยายามอนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้อย่างถูกกฎหมาย พวกเขายังเรียกร้องให้มีการทำให้การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กถูกกฎหมาย อีโว ซาเซก เคยเตือนไว้ในปี พ.ศ. 2550 ว่า "[...] พวกเขากำลังเรียกร้องต่อสาธารณะให้ลดอายุความยินยอมสำหรับเด็กลงเหลือ 12 ปี ด้วยการประกาศต่อสาธารณะ นี่เป็นเพียงก้าวแรกในโครงการของพรรคของเรา ว่าควรยกเลิกอายุความยินยอมสำหรับเด็กโดยสิ้นเชิง นั่นหมายความว่าคุณสามารถนั่งทับเด็กได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ตั้งแต่อายุ 12 ปี ไปจนถึงอายุ 18 ปี หรือแม้แต่เด็กทารก [...] พวกเขากำลังเรียกร้องเรื่องนี้ในที่สาธารณะ เข้าใจไหม? และสิ่งที่รวมอยู่ในโครงการของพรรคคือ zoophilia หรือที่เรียกกันว่า (แต่เดิมเรียกว่า sodomy) หรือการมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ ในโครงการเดียวกันนี้ พวกเขากำลังเรียกร้องให้การมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ถูกกฎหมาย และเมื่อฉันได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรก ฉันคิดว่าฉันคงหัวใจวายตาย [...] ดังนั้น พรรคนี้ ซึ่งกำลังจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้นมา ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแล้ว พูดอีกอย่างก็คือ หากคุณลุกขึ้นมาโวยวายในเนเธอร์แลนด์ ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก [...] คุณต้องคาดหวังว่าคุณจะถูกลงโทษ คุณจะถูกลงโทษ คุณจะถูกมองว่าเป็นฝ่ายผิด เป็นอาชญากร [...] แล้วไงล่ะ!" แล้วข้อห้ามจะกลายเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับได้อย่างไร? ผ่านคำเรียกร้องที่ดังกึกก้อง: MAP ย่อมาจาก "minor-attracted person" (บุคคลที่ดึงดูดผู้เยาว์) และถูกใช้โดยผู้ล่วงละเมิดเด็กหลายคนเพื่ออธิบายตนเองในรูปแบบใหม่แรงเสียดทาน คำย่อภาษาอังกฤษที่ดูไม่เป็นอันตรายนี้ถูกใช้โดยกลุ่มผลประโยชน์เพื่อนำเสนอผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในบทบาทของเหยื่อและค่อยๆ ปรับปรุงภาพลักษณ์ของพวกเขา คำนี้แทบจะไม่ได้รับความสนใจในวาทกรรมทางการเมืองและวิชาการ เว็บไซต์ที่สนับสนุนผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กวาดภาพผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่มีคุณธรรมซึ่งจะไม่ทำร้ายเด็ก "แน่นอนว่ามีผู้ชายแบบนี้อยู่จริง แต่ก็ยังมีอีกนับไม่ถ้วนที่เสพภาพการล่วงละเมิดเด็กหรือทำร้ายเด็กเอง" ระบุในโบรชัวร์เพื่อการศึกษา "The Creeping Pedophilization" โดย DemoFürAlle ในเดือนกรกฎาคม 2565 นักเคลื่อนไหวผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กยังได้เข้าร่วมการเดินขบวนของกลุ่ม LGBT* หรือที่เรียกว่า Christopher Street Day ในเมืองโคโลญจน์ พร้อมกับธง MAP ของพวกเขาเอง พวกเขาเรียกร้องให้การยอมรับความดึงดูดใจต่อผู้เยาว์ในฐานะอัตลักษณ์ทางเพศ พวกเขาใช้ตัวย่อ LGBTIQ+P และเรียกร้องให้มี "การรวมกลุ่มผู้รักเด็กอย่างเป็นทางการ" ในขบวนการ LGBT*: "เราเรียกร้องให้รวมผู้รักเด็กอย่างเป็นทางการในชื่อบุคคลที่มีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างจากคนทั่วไป โรครักเด็กเป็นอัตลักษณ์ทางเพศที่เป็นอิสระ ดังนั้นจึงควรได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 3 ของกฎหมายพื้นฐาน" "การขยายขอบเขตวัตถุประสงค์ของกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ดูเหมือนจะกระตุ้นความปรารถนามากขึ้น" Tritschler ส.ส. พรรค AfD กล่าว [ในการไต่สวนต่อรัฐสภาแห่งรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565] โบรชัวร์เพื่อการศึกษาจาก DemoFürAlle กล่าวต่อไปว่า "เรื่องเล่าที่สะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับบุคคลต่างๆ ช่วยให้ขบวนการนักเคลื่อนไหวลดทอนความสำคัญของโรครักเด็กและปลดปล่อยมันจากการถูกเนรเทศ" ยกตัวอย่างเช่น ในรายการ "Unter Kontrolle – Wie Pädophile mit ihrem Neigung leben" (ภายใต้การควบคุม – การใช้ชีวิตกับความโน้มเอียงของพวกชอบเด็ก) ทางสถานีวิทยุสาธารณะ Deutschlandfunk (DLF) พวกชอบเด็กถูกนำเสนอว่าเป็นนักสู้ที่มีความมุ่งมั่นและสามารถควบคุมความโน้มเอียงของตนเองได้ "รายงานฉบับนี้มองว่าการชอบเด็กเป็นเพียง 'รสนิยมทางเพศ' ที่เบี่ยงเบนไปจากบรรทัดฐาน" ชายสามคนที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กถูกนำเสนออย่างละเอียดอ่อนและเข้าใจ [...]." ในเดือนสิงหาคม 2566 สำนักข่าว DLF ได้ออกอากาศการสัมภาษณ์ "ผู้มีประสบการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก" ซึ่งเผยให้เห็น "ความพยายามอย่างหนักหน่วงที่พวกเขาต้องใช้เพื่อควบคุมพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ" ขณะเดียวกัน ผู้ให้สัมภาษณ์บางคนระบุว่า เนื่องจากลักษณะงานของพวกเขา พวกเขาจึง "ต้องติดต่อกับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอยู่ตลอดเวลา" ตามรายงานของ "กองทุนเพื่อต่อต้านการปราบปราม" [fondfbr.ru] สำนักข่าว DLF ได้ออกมาคัดค้านการห้ามใช้ตุ๊กตายางเด็กและทารกในการออกอากาศครั้งนี้ เนื่องจากเป็น "การละเมิดสิทธิของผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กอย่างร้ายแรง" อย่างไรก็ตาม แหล่งข้อมูลต้นฉบับที่เชื่อมโยงกับคำแถลงนี้ได้ถูกลบออกจากคลังสื่อของ ARD แล้ว ในปี 2564 กลุ่ม "Crooked 13" นำโดย Dieter Gieseking ได้ยื่นคำร้องต่อรัฐสภาเยอรมนีในหัวข้อ "สิทธิเด็กและอัตลักษณ์ทางเพศในกฎหมายพื้นฐาน" เรียกร้องให้ยกเลิกการทำให้พฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กเป็นความผิดทางอาญา การคุ้มครอง "สิทธิของเด็ก" ในเรื่อง "อัตลักษณ์ทางเพศ" คำว่า "ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก" จึงถูกตีความโดยนัยว่าเป็น "อัตลักษณ์ทางเพศ" อีกประการหนึ่ง กลุ่ม "Crooked 13" ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 และสนับสนุนการทำให้การผลิต การครอบครอง และการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กถูกกฎหมาย และการยกเลิกความผิดทางอาญาต่อการสัมผัสทางเพศระหว่างผู้ใหญ่และเด็ก ดีเทอร์ กีเซคิง นักล็อบบี้ยิสต์ที่มีชื่อเสียงและผู้ก่อตั้ง "Crooked 13" ถูกตัดสินจำคุก 18 เดือนในปี พ.ศ. 2539 จากการประกอบกิจการบริการสั่งซื้อสื่อลามกอนาจารเด็กทางไปรษณีย์ ในปี พ.ศ. 2546 เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดอีกครั้งจากการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กทางออนไลน์ ในปี พ.ศ. 2563 จากการริเริ่มของวุฒิสมาชิกสก็อตต์ วีเนอร์ ผู้มีแนวคิดรักร่วมเพศ ได้มีการผ่านกฎหมายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งในบางกรณีจะไม่ถือว่าผู้ล่วงละเมิดทางเพศเป็นผู้กระทำความผิดทางเพศ หากความแตกต่างของอายุระหว่างผู้กระทำความผิดและเหยื่อน้อยกว่า 10 ปี เป็นที่ชัดเจนว่าในกรณีของการล่วงละเมิด สิ่งเดียวที่สำคัญคืออายุของเด็ก ไม่ใช่อายุของเด็ก ความแตกต่างของอายุ โดยการกล่าวโทษและทำให้นักวิจารณ์กลายเป็นอาชญากร: ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เว็บไซต์ "wir-sind-auch-menschen.de" ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ได้กล่าวโทษประชาชนเมื่อผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กไม่สามารถควบคุมความต้องการของตนเองได้ โดยพวกเขาเรียกร้องว่า "การประณามทางสังคมต่อกิจกรรมทางเพศต่อเด็กต้องไม่ขยายไปถึงเนื้อหาที่ไม่ทำร้ายเด็ก" "เนื้อหา" ดังกล่าวน่าจะเป็นตุ๊กตาที่เด็กหรือทารกร้องขอ หรือภาพลามกอนาจารของเด็กโดย AI เป็นต้น? ความจริงที่ว่าจินตนาการเช่นนี้ยิ่งตอกย้ำความต้องการที่จะได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านั้น "ในชีวิตจริง" ไม่ช้าก็เร็ว เพราะสิ่งที่เรียกว่า "เนื้อหา" นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป น่าจะเป็นผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นักข่าวสืบสวนสอบสวน Reitschuster สรุป ["ผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเรียกร้องความเข้าใจ และต้องการให้ถูกกฎหมายอย่างกว้างขวาง"] เขาอ้างอิงถึงผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเว็บไซต์ hilen กล่าวต่อว่า "... แนวโน้มการล่วงละเมิดเด็กไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นผู้ล่วงละเมิดเด็กจึงต้องหาวิธีจัดการกับมัน ซึ่งในอุดมคติแล้ว ต้องเป็นแนวโน้มที่เคารพสิทธิของผู้อื่นและส่งผลดีต่อตนเองด้วย สิ่งสำคัญคือผู้ล่วงละเมิดเด็กต้องมีทางเลือก และไม่ใช่ทุกทางเลือกจะถูกทำให้เป็นอาชญากรรม" ความคิดเห็นของ Reitschuster เกี่ยวกับเรื่องนี้: "การกำหนดว่ามีเพียง 'ในกรณีที่ดีที่สุด' เท่านั้นที่จะสามารถหาวิธีจัดการกับแนวโน้มของตนเองที่เคารพสิทธิของผู้อื่นได้ ดูเหมือนจะเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน" ในรายการ "เมื่อนักข่าวคิดนอกกรอบมากเกินไป" [www.kla.tv/30848] Kla.TV ได้เผยแพร่รายงานพยานหลักฐานจากนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ จำนวนมาก ซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดโปงเครือข่ายผู้ล่วงละเมิดเด็กทั้งหมด คนเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของการคุกคาม การทารุณกรรม การพรากลูกของตนเอง การกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรม และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด การข่มขู่คุกคามชีวิตโดยระบบยุติธรรม ส.ส. เบห์เรนท์ ซึ่งถูกอ้างถึงในตอนต้น รายงานว่า: "[...] สำนักงานอัยการถูกส่งตัวมาที่ผม [...] ทันทีที่ผมเริ่มเอ่ยชื่อหนองบึงแห่งการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและตัวละครเอกของมัน ผมก็กลายเป็นเป้าหมายของการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก" นักวิจารณ์คนอื่นๆ ถูกและยังคงถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเกลียดชังมนุษยชาติ เกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน ฝ่ายขวา และพวกต่อต้านชาวยิว เมื่อพวกเขาเตือนเกี่ยวกับพัฒนาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคม ทักเกอร์ คาร์ลสัน พิธีกรรายการโทรทัศน์ของสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า: "สื่อไม่ได้สนใจที่จะรายงานข่าวเกี่ยวกับการทำให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ พวกเขามีความสนใจที่จะทำลายทุกคนที่บ่นเกี่ยวกับการทำให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่สังเกตเห็น" เนื่องจากการทำให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เด็กๆ จึงถูกทำให้มีเพศสัมพันธ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย "การศึกษาเรื่องเพศเพื่อความหลากหลาย" และ "การศึกษาเรื่องความหลากหลายทางเพศ" ได้แพร่หลายไปในศูนย์รับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนมานานแล้ว ในตอนแรกเรื่องนี้ฟังดูเปิดกว้างและเป็นสากล แต่แท้จริงแล้วตั้งอยู่บนทฤษฎีอันตรายของบรรพบุรุษผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก [www.kla.tv/303 Forefathers of Early Sexualization และ www.kla.tv/26172 Kentlergate] ดังที่ผู้เชี่ยวชาญของ Kla.TV ได้แสดงให้เห็นแล้วในหลายรายการ ความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างมหาศาล เนื่องจากทั้งวุฒิภาวะทางจิตใจและร่างกายของพวกเขาไม่สามารถรับมือกับการศึกษาประเภทนี้ได้ สภาพแวดล้อมที่โรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนควรจะให้การปกป้องกำลังถูกทำลายลง เนื่องจากมีการล่วงละเมิดทางเพศระหว่างเด็กกันเองเกิดขึ้นแล้ว [www.kla.tv/30696 อาชญากรรมทางเพศที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในหมู่เด็ก] ยิ่งไปกว่านั้น สิทธิของผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตรหลานถูกจำกัดอย่างรุนแรง เพราะทุกอย่างเป็นข้อบังคับและมาพร้อมกับภัยคุกคามต่างๆ รวมถึงการพรากเด็กไป ขอเตือนความจำ: มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้มีการสอนเรื่องเพศศึกษาที่ "เหมาะสมกับวัย" สำหรับกลุ่มอายุต่อไปนี้: 0-4 ปี: การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองในวัยเด็ก, "เกมหมอ" 4-6 ปี: การรักร่วมเพศ, ความรู้สึกทางเพศ (ความปรารถนา, ความตื่นตัว) 6-9 ปี: การคุมกำเนิด, การมีเพศสัมพันธ์ 9-12 ปี: เพศสภาพ, ความปรารถนา, การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง, การถึงจุดสุดยอด 12-15 ปี: อัตลักษณ์ทางเพศและรสนิยมทางเพศ 15 ปีขึ้นไป: การมีเพศสัมพันธ์แบบแลกเปลี่ยน, สื่อลามก, การเสพติดทางเพศ, พฤติกรรมทางเพศที่หลากหลาย DemoFürAlle ระบุไว้ในโบรชัวร์การศึกษาที่กล่าวถึงข้างต้นว่า: "เด็กที่ถูกทำให้มีเพศสัมพันธ์เป็นสวรรค์ของคนรักเด็ก แต่การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ซ่อนอยู่แค่ในเว็บไซต์มืดบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังอยู่ในพื้นที่ที่ดูเหมือนปลอดภัย เช่น โรงเรียนและศูนย์รับเลี้ยงเด็กด้วย" เดอ กราฟฟ์ [สมาชิกรัฐสภายุโรป (FVD)] กล่าวไว้ว่า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการให้การศึกษาหรือการสอนเด็ก สำหรับผู้ใหญ่ที่มีเพศสัมพันธ์กับเด็ก เด็กเป็นเพียงเครื่องมือ ผลกระทบที่เด็กได้รับนั้นไม่เกี่ยวข้องเลย" สมาชิกรัฐสภายุโรปเน้นย้ำ "เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่งที่ผู้เสียหายทางจิตใจเหล่านี้นำองค์กร รัฐบาล หรือสถาบันที่กำหนดธรรมชาติของสังคม และละเมิดพัฒนาการของเด็กเพื่อแก้ต่างให้กับความปรารถนาทางเพศที่ผิดเพี้ยนของตนเอง" รัฐบาลและฝ่ายตุลาการปกป้องเด็กของเราหรือไม่? โยวิกา โยวิกา นักสังคมศาสตร์และสมาชิกพรรคกลางเยอรมัน กล่าวถึงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยเน้นย้ำว่าระบบคุ้มครองเด็กที่ย่ำแย่ในปัจจุบันมักจะล้มเหลว เขากล่าวว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ที่เคยมีปัญหากับกฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในอดีต จะได้งานในสถาบันการศึกษาสำหรับเด็ก รวมถึงโรงเรียนอนุบาล ในทางกลับกัน กฎหมายเพื่อต่อสู้กับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กจะไม่เข้มงวดขึ้น เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 สภาบุนเดสทาคแห่งเยอรมนีได้ผ่านการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 184b แห่งประมวลกฎหมายอาญาอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มโทษขั้นต่ำสำหรับการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กจากหนึ่งปีเป็นหกเดือน และสำหรับความผิดฐานครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นจำคุกสามเดือนโทษปรับลดลงแล้ว การลดโทษขั้นต่ำทำให้การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กถูกจัดประเภทใหม่เป็นความผิดลหุโทษ แทนที่จะเป็นความผิดอาญาขั้นรุนแรง วิธีนี้ช่วยเพิ่มทางเลือกในการต่อสู้คดี หมายความว่าฝ่ายจำเลยในชั้นศาลจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับผู้กระทำความผิดครั้งแรก ภาพสื่อลามกอนาจารเด็กในคอมพิวเตอร์เพียง 500-1,000 ภาพเท่านั้นที่รอลงอาญา ส่วนภาพ 499 ภาพมีเพียงโทษปรับ นักสังคมวิทยา รือดิเกอร์ เลาท์มันน์ เรียกร้องให้ลดอายุขั้นต่ำสำหรับการแปลงเพศเป็น 7 ปี เขามีส่วนร่วมในการจัดทำโบรชัวร์เกี่ยวกับเด็กและเพศวิถี ซึ่งระบุว่าเพศวิถีระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ "เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง" โรงเรียนอนุบาล LGBT* สองแห่งเปิดทำการในกรุงเบอร์ลินในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 เพื่อสอนเด็กเล็กเกี่ยวกับ "ความหลากหลายของความรัก" สภาเกย์แห่งเบอร์ลินได้เสนอโครงการนำร่องสำหรับโรงเรียนอนุบาลประเภทนี้ ซึ่งรวมถึงบุคคลที่น่าสงสัยบางคนในกลุ่ม เช่น นักสังคมวิทยา รือดิเกอร์ เลาท์มันน์ ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาเป็นเวลา 40 ปี จากหนังสือเกี่ยวกับพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่สร้างความขัดแย้ง เลาท์มันน์เรียกร้องให้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นไปตามแบบแผนในหมู่ผู้เยาว์ หนึ่งในกลุ่มล็อบบี้ที่ใหญ่ที่สุดเพื่อยกเลิกการทำให้พฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กเป็นความผิดทางอาญาในเยอรมนีคือพรรคกรีน ในปี พ.ศ. 2523 ในเวทีแรก พรรคกรีนได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขมาตรา 174 และ 176 ของประมวลกฎหมายอาญาของเยอรมนี ซึ่งครอบคลุมถึงการล่วงละเมิดทางเพศบุคคลที่อยู่ในความดูแล และการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2536 ข้อเรียกร้องของพวกเขาในการทำให้พฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กถูกกฎหมายจึงถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการและถูกถอดออกจากเป้าหมายของพรรค ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 พรรคกรีนเป็น "ปีกในรัฐสภาของขบวนการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก" รายงานปี 2015 จากศาลภูมิภาคเบอร์ลิน: ในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 เขตครอยซ์แบร์ก ซึ่งเป็นเมืองหลวงเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กทั้งหมด ซึ่งผู้กระทำความผิดเป็นสมาชิกขององค์กรก่อนหน้าพรรคกรีน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก 15 คน และเหยื่อเกือบ 1,000 คน เฟร็ด คาร์สต์ สมาชิกพรรคกรีน ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดเด็กสองครั้งในปี 1980 และ 1995 แต่ยังคงมีบทบาททางการเมือง คาร์สต์เพิ่งออกจากพรรคหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาครั้งที่สอง ในขณะนั้น พรรคกรีนยังรวมถึงองค์กรชวุปปี (BAG SchwuP) ซึ่งสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์ที่ปกติกับเด็ก และผู้ก่อตั้งคือดีเทอร์ อุลมันน์ ซึ่งต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ดาเนียล โคห์น-เบนดิต ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกรีนและสมาชิกรัฐสภายุโรป (พ.ศ. 2537-2557) ได้บรรยายถึงการติดต่อกับเด็กอย่างผิดกฎหมายในหนังสือ "The Great Bazaar" ของเขาในปี พ.ศ. 2518 อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของเขาเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศกับเด็กไม่เคยนำไปสู่การสอบสวนทางอาญาโดยฝ่ายตุลาการของเยอรมนีเลย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา เป็นที่ทราบกันดีว่าเครือข่ายชายมุสลิมปากีสถานจำนวนมาก ได้วางยา ข่มขืน แสวงหาประโยชน์ทางเพศ หรือขายเด็กหญิงท้องถิ่นอายุต่ำกว่าเกณฑ์ (อายุ 11-16 ปี) หลายร้อยคน หรืออาจถึงหลายพันคน ในชุมชนชาวอังกฤษอย่างน้อย 50 แห่ง ระหว่างปี พ.ศ. 2540 ถึง พ.ศ. 2556 อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ การสืบสวนและการตัดสินลงโทษของตำรวจไม่เคยเกิดขึ้นจริง เนื่องจากระบบการเมืองและระบบตุลาการได้ปกปิดกิจกรรมอันโหดร้ายของ "แก๊งหลอกลวง" ดังที่ผู้เขียน Sommerlad และ McKelvie (2018) ได้อธิบายไว้อย่างละเอียด เด็กนักเรียนหญิงถูกแยกจากพ่อแม่ ลักพาตัว 'ถูกทำให้มึนเมา' ด้วยแอลกอฮอล์และยาเสพติดโดยชายผู้อพยพ จากนั้นจึงถูกข่มขืน แม้ว่าจะมีการบันทึกไว้ในรายงานของตำรวจเกี่ยวกับการบังคับค้าประเวณีเด็กนักเรียนหญิง แต่ตำรวจกลับปกปิดคดีข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงเหล่านี้ทั้งหมดไว้ในตอนแรก เพราะกลัวว่าจะถูกตราหน้าว่าเป็น 'พวกเหยียดเชื้อชาติ' [...] เด็กผู้หญิงเหล่านี้เป็นชาวยุโรปพื้นเมือง (อังกฤษ) และถูกกลุ่มชายผู้อพยพทำร้ายราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ด้อยกว่า อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงประจำเมืองฮัมบูร์กยืนยันกับกองทุนเพื่อการต่อสู้กับการปราบปราม [fondbr.ru] ในปี 2024 ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำนักงานของเขาได้รับคำสั่งโดยตรงหลายครั้งให้ประเมินจำนวนอาชญากรรมทางเพศต่อเด็กต่ำกว่าความเป็นจริง และไม่ให้บันทึกคำให้การของเหยื่อที่ถูกกระทำทารุณกรรม เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายประเมินว่าตัวเลขที่รัฐบาลรายงานนั้นต่ำกว่าตัวเลขจริง 55-60% เขาเชื่อว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในเดือนสิงหาคม 2565 คาร์สเทน สตาห์ล นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ดารารายการเรียลลิตี้ทีวี และที่ปรึกษาด้านการกลั่นแกล้งในโรงเรียน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการฆาตกรรมไอลีน เด็กหญิงวัย 14 ปี จากรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก โดยกล่าวว่าเยอรมนีเป็นสวรรค์ของคนรักร่วมเพศเด็ก ผู้ข่มขืน และสื่อลามกเด็ก และศาลเยอรมนี "ปกป้องสิทธิของอาชญากรมากกว่าสิทธิของเด็ก" สตาห์ลเรียกร้องให้นักการเมืองเยอรมนีแก้ไขปัญหาเพื่อดูแลประชาชนและประเทศชาติของตนเอง ภายใต้นโยบาย "เปิดพรมแดน" ของไบเดน การค้ามนุษย์เด็กเพิ่มขึ้นสามเท่า มีเด็กสูญหายมากถึง 325,000 คน ไม่เพียงแต่เด็กอายุ 16-17 ปีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็กเล็กและทารก (เด็กที่อายุน้อยที่สุดเพียง 3 เดือน) ที่ถูกค้ามนุษย์โดยไม่มีพ่อแม่ข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกมายังสหรัฐอเมริกา ด้วยผู้รับเหมาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลหรือผู้เสียภาษี เช่น บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน MVM เด็กหลายพันคน เช่น จากกัวเตมาลา ถูกส่งตัวด้วยรถบรรทุกไปยังจุดรับบริจาค เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) ได้สกัดกั้นเด็กเหล่านี้และนำพวกเขากลับบ้านในเวลาต่อมา ภายใน 10 วัน เด็กที่ถูกค้ามนุษย์ซึ่งไม่รู้ภาษาอังกฤษหรือภาษาสเปน ถูกส่งตัวให้กับ "สมาชิกในครอบครัว" ที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง หรือสูติบัตร ญาติที่ดูเหมือนชัดเจนเหล่านี้ไม่ได้ถูกคัดกรองล่วงหน้า ซึ่งโดยนัยแล้วเพื่อเร่งกระบวนการจัดหาที่อยู่ให้ ทารา โรดาส อดีตพนักงานของ HHS ระบุว่า "ญาติ" เหล่านี้ยังรวมถึงเครือข่ายอาชญากร แก๊ง และแม้แต่ฆาตกร ในบางกรณี มีเด็กมากถึง 100 คนถูกส่งตัวไปอยู่ที่บ้านเดียวกัน กรม HHS มีชื่อและที่อยู่ของ "ญาติ" รวมถึงรูปถ่ายของเด็ก ๆ อยู่ในฐานข้อมูล แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลแม้ได้รับคำสั่งให้เปิดเผยก็ตาม เด็กที่สูญหายมากถึง 325,000 คนอาจถูกระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจนโดยใช้ข้อมูลจาก HHS ในปี พ.ศ. 2566 ฮันนาห์ ไดเออร์ นักข่าวชาวอเมริกัน รายงานข่าวเด็กที่สูญหาย 85,000 คน ในบทความชุดสามตอนของนิวยอร์กไทมส์ เธอเขียนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกันของแก๊งค้ามนุษย์ที่มองว่าเด็กเป็นวัตถุดิบและใช้พวกเขาเป็นแรงงานเด็ก เช่น ในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ หรือที่แย่กว่านั้น ทั้งฝ่ายตุลาการและระบบการเมืองต่างก็ไม่ได้ตอบสนองใดๆ สรุป: ไมเคิล ฮือเทอร์ นักประวัติศาสตร์และนักวิจัยด้านเด็ก เรียกชุมชนครอบครัวว่า "แบบจำลองความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ" มอบการปกป้องสูงสุดให้กับเด็กๆ แต่ในขณะที่ผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเรียกร้องสิทธิต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ต่อสาธารณะ แหล่งหลบภัยที่ปลอดภัยของครอบครัวแห่งนี้กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกพรากสิทธิไปอย่างเป็นระบบ ในขณะเดียวกัน สื่อสาธารณะกลับลดความสำคัญของการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและนำเสนอภาพผู้กระทำความผิดว่าเป็นเหยื่อที่แท้จริง รัฐบาลกำลังตรากฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเด็กและลดโทษสำหรับความผิดต่อเด็ก ซึ่งทำให้อาชญากรรมที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา ในทางกลับกัน ผู้ปกครองและผู้เชี่ยวชาญที่เตือนกลับถูกตราหน้าว่าเป็นความผิดทางอาญา รัฐซึ่งมีหน้าที่ปกป้องกลุ่มเปราะบางที่สุดในสังคม กำลังออกกฎหมายเกี่ยวกับการกำหนดชะตากรรมของตนเองของผู้เยาว์และการทำให้เด็กมีเพศสัมพันธ์กับเด็กโดยเริ่มต้นจากสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยอ้างว่าเพื่อให้ความคุ้มครองแก่พวกเขามากขึ้น แต่พวกเขากังวลเกี่ยวกับการปกป้องเด็กๆ จริงหรือ? ไม่ว่าในกรณีใด กระทรวงต่างๆ ของรัฐบาลกำลังทุ่มเงินภาษีของประชาชนจำนวนมากให้กับ "โครงการด้านการศึกษา" ที่เกี่ยวข้อง สิ่งเหล่านี้คุกคามที่จะทำลายพัฒนาการที่ดีของเด็ก ผ่านเนื้อหาทางเพศและเนื้อหาลามกอนาจารที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างมากมาย นิโคล เฮิชสต์ ส.ส. พรรค AfD สรุปไว้ดังนี้: "หากคุณใช้เรื่องเพศเป็นอาวุธโจมตีเด็ก คุณกำลังทำลายชีวิตของเด็กคนนั้น คุณควบคุมเด็กคนนั้น พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนซอมบี้เดินได้ เมื่ออายุ 18/19 ปี คนๆ นั้นจะไม่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพส่วนบุคคล เพื่อความยุติธรรมสำหรับทุกคน เพื่อครอบครัว หรือเพื่อกฎหมายพื้นฐาน เมื่อมนุษย์ถูกล่วงละเมิดทางเพศ พวกเขาจะประพฤติตนเหมือนเต่า พวกเขาเอาหัวมุดเข้าไปในกระดอง คนที่ถูกล่วงละเมิดจะเข้าสู่โหมดเอาตัวรอด" [แสดงโดย: นิโคล เฮิชสต์ แปลโดยอิสระจากวิดีโอภาษาอังกฤษโดย PragerU] เรามาลุกขึ้นยืนเพื่อให้แน่ใจว่าข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้จะยังไม่ได้รับการแก้ไข การล่วงละเมิดทางเพศและอาชญากรรมต่อเด็กเป็นอาชญากรรม!

from abu./ tt./ utw./ bji/ jtb.

Sources/Links: Rede Ivo Sasek: „Abschied von der Intelligenz“, März 2007: [1] [17] https://sasek.tv/de/prophetische/intelligenz
Aussagen zu Kindesmissbrauch: [2] [3] [6] [15] [19a] [20a] [21] [30] [32] [33] [34] [35] [36] [39] [39a] https://fondfbr.ru/de/artikel/german-child-abuse-de/
[2] https://de.statista.com/statistik/daten/studie/380167/umfrage/polizeilich-erfasste-faelle-von-sexuellem-missbrauch-von-kindern-in-deutschland/
[2]https://www.bka.de/DE/AktuelleInformationen/StatistikenLagebilder/Lagebilder/SexualdeliktezNvKindernuJugendlichen/2023/BLBSexualdelikte.html?nn=227346 Zitate Frau Behrendt, AfD-Abgeordnete im Niedersächsischen Landtag: [4] [5] [9] [26] https://www.youtube.com/watch?v=RJHQkv3GDS0
GB: Großes Missbrauchs-Netzwerk – keine Ermittlungen oder Verurteilungen: [7] https://demofueralle.de/2025/01/09/grossbritannien-missbrauchsnetzwerk-wird-oeffentlich/
Unter Biden werden 325.000 Kinder vermisst – Interview Tara Rodas: [8] [10] min 14:05 https://www.youtube.com/watch?v=bpignPh_gkc
Legalisierung Ehe für Alle: [11] https://www.germany.info/us-de/botschaft-konsulate/new-york/ehe-923730?
[11a] https://www.equaldex.com/log/59?
[11b] https://de.wikipedia.org/wiki/Gleichgeschlechtliche_Ehe?
Adoptivrecht für Alle: [12] https://de.wikipedia.org/wiki/Adoption_
(Deutschland) Zitat Kutschera zu Homopädophilie: [13] U. Kutschera: Vergewaltigung der Natur. Die Grüne Regenbogen-Agenda zerstört unsere Gesellschaft. Verlag Tredition, Hamburg, 2024 S.228 (Abs. 2) Konsequenzen von Selbstbestimmung für Alle: [13a] www.kla.tv/Transgender/23353
https://www.kla.tv/14025
Kinderehen: [14] https://www.kla.tv/11021
Pädophile werben um Verständnis + Forderung nach Sexpuppen mit „kindlichem“ Erscheinungsbild: [16] [24 ]https://reitschuster.de/post/paedophile-werben-um-verstaendnis-und-wollen-weitgehende-legalisierung/ Forderungen von Pädophilenpartei Niederlande: [18a] https://www.jetzt.de/textmarker/paedophile-bei-der-parlamentswahl-verbotsantrag-fuer-niederlaendische-partei-gescheitert-326153
[18b] https://de.wikipedia.org/wiki/Partij_voor_Naastenliefde,_Vrijheid_en_Diversiteit
DemoFürAlle-Broschüre – Schleichende Pädophilisierung: [19] [20] [20a] https://demofueralle.de/wp-content/uploads/2025/03/Broschuere-Paedophilie_20250312.pdf
S. 11, S. 14 Zitat Tritschler: [19b] https://www.landtag.nrw.de/portal/WWW/dokumentenarchiv/Dokument/MMD18-276.pdf
Gieseking Verurteilungen: [21] https://www.telepolis.de/features/Krummes-Urteil-wegen-Paedophilie-im-Internet-3429241.html
https://apollo-news.net/legalisierung-von-kindesmissbrauch-bundestag-stimmt-ueber-die-petition-eines-verurteilten-paedophilen-ab/
Senator Scott Wiener – Altersunterschied zw. Täter und Opfer: [22] kla.tv/30526 Reitschuster zur Webseite „wir-sind-auch-menschen.de“: [23] [24 ]https://reitschuster.de/post/paedophile-werben-um-verstaendnis-und-wollen-weitgehende-legalisierung/ „Wenn ein Journalist zu sehr über den Tellerrand schaut“: [25] https://www.kla.tv/30848
Kinsey und Kentler, Urväter der Frühsexualisierung und Kentler Gate: [27] https://www.kla.tv/303
kla.tv/26172 Finger weg von unseren Kindern! [28] https://www.kla.tv/Paedophilie/26670
https://ag-kindeswohl.de/wp-content/uploads/2023/05/BZgA-M-Standards-sexualaufkl-in-europa.pdf
S.41-54 Europaabgordneter de Graaff zur Normalisierung von Pädophilie: [29] https://uncutnews.ch/un-muss-aufhoeren-paedophilie-zu-normalisieren/
Mindeststrafe für Kinderpornographie gesenkt: [31] https://www.anwalt.de/rechtstipps/gesetzesaenderung-bei-besitz-von-kinderpornografie-strafe-wird-gesenkt-226771.html
Die Grünen: [34] https://www.merkur.de/politik/forscher-gruene-wollten-kindern-legalisieren-zr-3052486.html?utm_source=chatgpt.com
https://www.ibtimes.com/germanys-left-wing-greens-party-pedophiles-1260787
Daniel Cohn-Bendit: [36] https://www.emma.de/artikel/daniel-cohn-bendit-ich-hatte-lust-264015
Grooming Gangs: [37] https://demofueralle.de/2025/01/09/grossbritannien-missbrauchsnetzwerk-wird-oeffentlich/
https://www.humanium.org/de/die-auseinandersetzung-mit-der-gruppenbasierten-sexuellen-ausbeutung-von-kindern-im-vereinigten-koenigreich/
Loverboys: [38] U. Kutschera: Vergewaltigung der Natur. Die Grüne Regenbogen-Agenda zerstört unsere Gesellschaft. Verlag Tredition, Hamburg, 2024 S.173 (Abs. 2) Tara Rodas: [40] [41] https://www.youtube.com/watch?v=bpignPh_gkc
Michael Hüter zu Erfolgsmodell Familie: [42] https://demofueralle.de/2025/09/04/michael-hueter-eltern-muessen-sich-gegen-entrechtung-wehren/
[43] Abgeordnete Nicole Höchst, frei nach PragerU: https://journalistenwatch.com/2022/07/10/hoechst-oeffentlicher-kindesmissbrauch/?print=print